ชื่อร้าน : โกเบสเต็กเฮ้าส์ (KOBE STEAKHOUSE)
ประเภทอาหาร : อาหารญี่ปุ่น
เมนูจานเด่น : ซาซิมิรวม, เทมปุระ, ซาบะสเต็ก, เนื้อโกเบสเต็กชุด
บรรยากาศร้าน : มี 3 ชั้น มีมุมโต๊ะให้เลือกนั่งมากมาย มีห้องส่วนตัวด้วย
ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 7 ร้านจะอยู่ ตรงข้ามด้านหน้าโรงแรมโนโวเทลสยาม
สถานที่จอดรถ : จอดรถได้หน้าร้านเสียค่าจอดรถชั่วโมงละ10บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.30 – 23.00น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00-23.00น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2251-1336, 0-2658-3990, 0-2250-1417
"วัว" เป็นสัตว์อีกประเภทหนึ่ง ที่เรานิยมนำมาปรุงรสเป็นอาหารอันแสนโอชะ ถ้าเป็นเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยฟางอย่างเดียว ว่ากันว่าเนื้อจะสู้วัวที่มีการเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน ที่เลี้ยงด้วยฟางที่หมักคลุกเคล้ากับเบียร์ แถมด้วยการนวดเนื้อให้วัวทุกวันไม่ได้ เพราะเนื้อนุ่มกว่ากันเยอะ
"โกเบสเต็กเฮ้าส์" ซึ่งจัดเป็นร้านเก่าแก่ เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ก็เป็นเวลายาวนานกว่า29ปีแล้ว จุดเริ่มต้นของร้าน เริ่มมาจากความสนใจเรื่องอาหารญี่ปุ่นของเจ้าของร้าน ถึงขั้นลงทุนจ้างเชฟญี่ปุ่น มาสอนวิธีการทำอาหารให้กุ๊กคนไทยได้เรียนรู้สูตรขนานแท้ดั้งเดิม
ทันทีที่ก้าวย่างเข้าไปภายในร้าน สามารถสัมผัสได้ทันทีถึงบรรยากาศ แห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยสไตล์การตกแต่งร้าน ที่เน้นโทนสีน้ำตาลของเนื้อไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบาย ๆ
ที่ "โกเบสเต็กเฮ้าส์" มีส่วนที่เปิดเป็นห้องอาหารทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกนั้นเป็น ครัวสเต็ก ลักษณะเป็นแบบเคาเตอร์โต๊ะให้นั่งกิน และสามรถเห็นเชฟปรุงอาหารแบบสดๆ ให้เห็นกันจะๆแบบควันลอยฉุยส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ใครที่คิดจะฟูมฟักลักจำไว้ไปลองทำที่บ้านก็คงต้องเหล่ตามองดี ๆ
ส่วนชั้นที่ 2 ก็เป็นโต๊ะนั่งรับประทานอาหารทั่วไป มีทั้ง โต๊ะเล็ก โต๊ะใหญ่ รวม10 กว่าโต๊ะ และชั้นที่3 จะมีมุมเคาร์เตอร์ซูชิ และจะจัดแบ่งเป็นห้องส่วนตัว โดยมีห้องเล็กจำนวน 2 ห้อง จุได้ 6 ที่นั่ง ต้องบวกเงินเพิ่ม150บาท ห้องใหญ่มี4 ห้อง จุได้10-12ที่นั่งบวกเงินเพิ่ม 200บาท
เมนูเด็ดของที่นี่ต้องยกนิ้วให้ (ราคา900 และ2,000บาท) สำหรับเนื้อโกเบของทางร้านจะเริ่มจากการสไลด์เนื้อเป็นแนวยาวให้ได้ขนาดพอเหมาะ จากนั้นจึงค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงบนกระทะ เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้ว จึงนำเนื้อลงไปย่าง แล้วหั่นเนื้อเป็นชิ้น ๆ ใส่เกลือ พริกไทย น้ำมันงาเพื่อเพิ่มความหอม เหยาะโชยุเล็กน้อย ทาเนยเค็มเท่านี้ได้ลิ้มรสเนื้อนุ่มแล้ว
นอกจากเนื้อโกเบคุณภาพเยี่ยมแล้ว ยังมีเครื่องเคียงชั้นยอดอย่างผัดผักรวม และกระเทียมเจียว ที่เสริฟ์มาในจานเดียวกันกับเนื้อโกเบ และออเดิร์ฟอย่างกุ้งแม่น้ำตัวโต ที่มาพร้อมกับ และเห็ดฟาง ที่ผ่านการปรุงรสอย่างดี
บวกข้าวและน้ำซุปสไตล์ญี่ปุ่น กิมจิ มายองเนส และต้นหอมสับ อิ่มหนำแล้วก็ยังสามารถเลือกตบท้ายได้ด้วยชา กาแฟ หรือผลไม้อีกด้วย รสชาติของเนื้อทั้งนุ่ม ทั้งเนียมละเมียด ยามที่เคี้ยวเนื้อจะรู้สึกว่าชุ่มฉ่ำเต็มคำถึงรส ได้กลิ่นพริกไทยอ่อน ๆ ที่สำคัญเนื้อไม่เหนียวกลืนคล่องคอ
จานต่อมาเป็นซาซิมิรวม (300 – 1,000บาท) โดดเด่นด้วยเนื้อปลาสด ๆ นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปลาบุรี ปลาซาบะ ปลาโอ ปลากระพงขาว ปลากระพงแดง ที่วางอยู่บนหัวไชเท้า แครอท หั่นฝอย ไดก๋อง กินกับโชยุและวาซาบิ ได้รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ เนื้อปลาทั้งหวานทั้งมัน
ตามด้วย (180บาท) มีทั้งแบบย่างเกลือและย่างซีอิ้ว เคล็ดลับของซาบะอยู่ที่เนื้อปลา ต้องแน่นเนื้อจะหอม หวานด้วยการปรุงซีอิ้วหวาน และเติมสาเกเพื่อความนุ่มและหอม จานนี้จะเสริฟ์พร้อมกับหอมหัวใหญ่และพริกฝรั่งสีเขียวน่ารับประทาน ให้รสหวานนุ่มลิ้น
ตบท้ายด้วย (120และ140บาท) มีสองราคาเพราะแบ่งเป็นชุดที่มีผักและกุ้งรวมกัน และชุดที่เป็นกุ้งล้วนซึ่งจะมีราคาแพงกว่ากันเล็กน้อย ส่วนชุดที่เป็นผักก็มีผักอย่างหอมหัวใหญ่ แครอท เผือก ที่นี่เขาทอดได้เหลืองน่ารับประทาน คลุกเคล้ากับแป้งสำหรับทอดเทมปุระและชุบเกล็ดขนมปัง รสชาติกรอบ หวาน
นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเมนูที่ทางร้านรังสรรค์ไว้ต้อนรับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น เป๋าฮื้อสเต็ก (2,000บาท) แก้มปลาบุรีย่างเกลือ(500บาท) สเต็กเนื้อนกกระจอกเทศ (550บาท) เซ็ทพิเศษอาหารกลางวัน (120บาท) ที่รอคอยให้มิตรรักนักกินทั้งหลายไปเยี่ยมเยือนลองลิ้มชิมรสกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น